วันจันทร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2557

แม่สายป่านจะมาแชร์ประสบการณ์เรื่องการหาโรงเรียนอนุบาลสำหรับลูกน้อยสองภาษา Learning Home International Kindergarden

แม่สายป่านและอาม่าน้องออมใจใช้เวลาตระเวนดูโรงเรียนอนุบาลมาเป็นระยะเวลา 2 เดือนกว่าๆแ ล้ว อย่างแรกสิ่งที่ต้องตั้งจุดเป้าหมายคือ จะให้ลูกเดินไปไหนทิศทางไหน โดยเลือกโรงเรียนให้เหมาะกับวิธีการสอนที่เราสอนลูก ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน การเลือกโรงเรียน นอกจากดูหลายๆปัจจัย แล้วสิ่งที่อาม่าน้องออมใจ และคอยย้ำเตือนเสมอ คือต้องคิดว่าทางเลือกที่เราจะเดินไป จะต้องส่งเค้าให้ถึงฝั่งอีก 20 ปีข้างหน้า การมองไปข้างหน้าว่าเมื่อต่อ ประถม มัธยม มหาลัย จะเป็นไปในทิศทางไหน ใช่คะ หลายๆคน อาจจะมองว่า ไกลไปมั้ย สำหรับการเลือกโรงเรียนในครั้งนี้ การมีเป้าหมายที่ชัดเจน จะทำให้เราเลือกทางเดินให้ลูกได้ง่ายขึ้น แม่สายป่านเชื่อว่าสิ่งที่จะอยู่ติดตัวลูกไปคือ การศึกษา จึงตั้งปณิธานว่า จะส่งลูกให้ได้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ นอกจากการศึกษา แล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ จริยธรรม และการเรียนรู้ที่จะเอาตัวรอด โดยไม่เอาเปรียบใคร มาแตกประเด็นในเรื่องว่าเรียนอินเตอร์ตั้งแต่เด็กจะคุ้มหรือไม่ เพราะว่าแม่สายป่านถูกส่งไปเรียนต่างประเทศก็ตอน มัธยมปลาย ซึ่งเมื่อเจอสภาพแวดล้อมแบบนั้นแล้ว กลับมาก็ย่อมพูดได้ปร๋ออย่างแน่นอน เพราะถูกบังคับด้วยสภาพแวดล้อมที่ไม่มีคนไทยเลยแม้แต่คนเดียว พี่น้องในครอบครัวจึงมองว่าเก็บเงินตอนนี้แล้วส่งไปเรียนทีเดียวเมื่อน้องออมใจโตแล้วดีกว่า แต่แน่นอนคะเด็กในปัจจุบันมีการแข่งขันค่อนข้างสูง โดยส่วนตัวแม่สายป่านแล้วก็ยังมองว่าการส่งลูกเรียนอินเตอร์ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เมื่อดูจากหลายๆปัจจัย การเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวส่งลูกเรียนขนาดนี้อาจจะยากลำบาก แต่ก็ไม่เกินกำลังที่เราจะส่งลูกเราเรียนอีก 20 ปี เพราะเชื่อเถอะคะ ว่าคนที่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษ ย่อมสามารถที่จะเสาะแสวงหาความรู้ในอินเตอร์เน็ต และมีโลกทัศน์ที่กว้าง เพราะปัจจุบันทุกคนก็ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางในการสื่อสาร เคยแปลกใจไหมคะว่าทำไมประเทศอย่าง อเมริกา ถึงมีบุคลากร ที่เก่งมากมายเหลือเกิน เพราะการศึกษาในรูปแบบต่างประเทศนั้น ไม่ได้เน้นให้เด็กเก่งวิชาการ แต่เน้นให้เด็กมีความสุขและการรู้ตัวตนว่าชอบอะไร และแสวงหาในสิ่งที่ชอบได้ด้วยตัวเอง แม่สายป่านจึงขอเลือกการศึกษาแนวนี้ให้กับน้องออมใจ ในปัจจุบันทางเลือกทางการศึกษามีมากมายเหลือเกิน เดี๋ยวแม่สายป่านจะลองลิสต์คร่าวๆมาให้คะเท่าที่ได้ไปดูมา

1.       โรงเรียนอินเตอร์ จากเท่าที่ศึกษาคร่าวๆ แล้ว โรงเรียนอินเตอร์จะไม่ได้เน้นวิชาการ เน้นเรื่องความสุขเป็นหลัก โดยใช้หลักการที่ว่า เมื่อไหร่ที่เด็กมีความสุข เด็กก็จะพร้อมรับการเรียนรู้ใหม่ และจะมี EQ มากกว่าเด็กที่เน้นวิชาการ

2.       โรงเรียนสาธิต ถ้าคุณพ่อคุณแม่ต้องการให้ลูกสอบเข้าสาธิต มีโรงเรียนอนุบาลดังๆ ก็คือ โรงเรียนอนุบาลบ้านสานฝัน คือติวสอบเข้าสาธิตไปเลย เน้นการสอนแบบข้อสอบเชาวน์ต่างๆ ตั้งแต่อนุบาล 1

3.       โรงเรียนทางเลือก ก็คือการเรียนรูปแบบ Project ให้เด็กๆสัมผัส ได้ทำ โดยผ่านการเรียนรู้ของตัวเอง ก็มี โรงเรียนรุ่งอรุณ กับวรรณสว่างจิต ซึ่งอยู่ในโซนพระราม 2

4.       โรงเรียนเน้นติวสอบเข้าพวก คาทอลิค เท่าที่ไปดูมาก็มี โรงเรียนเธียรประสิทธิ์ อยู่แถวๆเส้นสีลม ซึ่งจะต้องจองล่วงหน้าก่อน ซึ่งตัวแม่สายป่านได้จองไปตั้งแต่ปีที่แล้วเพราะยังไม่ทราบทิศทางที่ชัดเจนในเรื่องโรงเรียนลูกเลยจองเอาไว้ก่อน โรงเรียนไม่ใหญ่มาก นักเรียนต่อห้องประมาณ 30 คนต่อห้อง อัตราการสอบเข้าโรงเรียนคาทอลิค อาทิเช่น อัสสัมชัญ, เซ็นโย, มาแตร์ ค่อนข้างสูงมาก
5.       โรงเรียน 3 ภาษา ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเน้นเป็นหลักสูตร สิงค์โปร ได้ไปดูที่ Triple Tree โรงเรียนเพิ่งเปิด นักเรียนต่อห้องมีไม่ถึง 10 คน ค่าเทอมประมาณ 180,000 ต่อปี เรียนทั้งไทย จีน อังกฤษ

หลายๆคนค่อนข้างสงสัยว่าทำไมถึงรีบไปดูจัง ส่วนตัวแม่สายป่านรู้สึกว่าเราควรศึกษาไว้คร่าวๆก่อน เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจ ใช้เวลาคิดหลายเดือนทีเดียวคะ สุดท้ายแม่สายป่านและอาม่าน้องออมใจก็ได้ตัดสินใจว่าให้เรียนที่เดิมคือ Learning Home International Kindergarden หัวข้อหลักๆที่ทำให้ตัดสินใจเรียนที่เดิมคือ

1.       สะดวกต่อการเดินทาง เนื่องจากบ้านอยู่พระราม 3 โรงเรียนอยู่สีลม

2.       ปริมาณนักเรียนต่อห้องน้อย ไม่เกิน 10 คนต่อห้องและเด็กโดยส่วนใหญ่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ห้องเรียนก็ตาม การเลือกอัตราส่วนเด็กน้อยต่อห้องส่งผลให้คุณครูสามารถ concentrate กับเด็กได้ง่ายกว่าอัตรานักเรียนต่อห้องที่มากกว่า

3.       ข้อสุดท้ายเป็นข้อที่สำคัญที่สุดที่ให้เลือกเรียน ที่นี่คือ คุณครูที่นี่ให้ความใส่ใจกับนักเรียน เมื่อมีปัญหาใดๆ สามารถเข้าไปปรึกษาคุณครูที่นี่ โดยที่คุณครูพร้อมที่จะเปิดใจรับฟัง การเรียนการสอนที่นี่ เน้นให้เด็กมีความสุขก่อน ไม่ได้เร่งรัดจนเกินไป ซึ่งแม่สายป่านคิดว่าข้อนี้เป็นเรื่องสำคัญ หลายๆคนส่งลูกไปติวเพื่อสอบเข้าต่างๆ โดยไม่ได้คำนึงถึงลูกว่าลูกจะมีความสุขหรือเปล่า

ลูกสาวน้องออมใจมีความสุขมากๆกับการเรียนที่นี่ อยากตื่นไปโรงเรียนทุกวัน ซึ่งแม่สายป่านคิดว่าเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด แม่ทุกคนย่อมอยากให้ลูกมีความสุขกับการเรียน ที่นี่เป็นอีกทางเลือกนึงที่อยากแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ ลองเข้าไปดูได้คะ ที่นี่เปิดให้ทดลองเรียนฟรีทั้งหมด 3 วัน บรรยากาศเป็นกันเอง แม้ว่าตัวโรงเรียนอยู่บนดาดฟ้าของตึก Trinity แต่ว่า บรรยากาศเปิดโล่ง มีทั้งสนามเด็กเล่นที่กว้างขวาง วันก่อนยังเห็นเด็กอีกคนนึงที่เรียนชั้นเดียวกับน้องออมใจ ยังไม่ยอมกลับบ้าน แม้ว่าจะเลิกเรียนแล้วก็ตาม นักเรียนที่นี่ดูมีความสุขกับการเรียน

ใครสนใจติดต่อได้คะ เบอร์โรงเรียน 02-231-5388