วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ทำอย่างไรที่จะส่งเสริมให้ลูกรู้สึกว่าเค้าสำคัญ by แม่สายป่าน




สิ่งที่สำคัญในการพัฒนาสุขภาพของถึงคือการให้เด็กรู้สึกถึงความสำคัญและมีค่า รวมถึงการนับถือตนเอง ซึ่งจะเป็นการสร้างเกราะของเด็กสำหรับการใช้ชีวิตในสังคม เด็กที่รู้สึกว่าตัวเองสำคัญจะสามารถที่จัดการความขัดแข้งหรือการต่อต้านแรงกดดันในเชิงลบ พวกเขาจะมีแนวโน้มที่จะมี Positive Thinking และคิดอย่างรวดเร็วและสนุกกับชีวิตกว่าเด็กทั่วไป เด็กเหล่านี้จะอยู่กับโลกของความเป็นจริง และมองโลกในแง่บวก ซึ่งบุคลิกภาพและพฤติกรรมจะเต็มไปด้วยพลังในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆอย่างล้นเหลือ จนทำให้เพื่อนรอบข้างรู้สึกอยากอยู่ใกล้ เพราะทำให้เค้ารู้สึกอบอุ่นใน และกำลังใจ ในทางตรงข้ามกัน เด็กที่ไม่ได้รู้สึกว่ามีความสำคัญหรือไม่นับถือในตนเอง ความท้าทายจะกลายเป็นแหล่งที่มาของความวิตกกังวลและยุ่งยาก และสุดท้ายเด็กก็จะเลือกที่จะไม่สู้กับปัญหา หรือหนีปัญหานั่นเอง

พ่อแม่เป็นคนที่มีอิทธิพลที่สุดที่จะทำให้ลูกรู้สึกสำคัญและมีค่า อย่าลืมที่จะเชยชมลูกๆเมื่อลูกๆทำสิ่งดีๆ หรือความพยายาม ความกล้าหาญ พยายามส่งเสริมลักษณะที่ดีของลูกๆ พยายามหาวิธีที่จะเรียนรู้จากความผิดพลาดและความล้มเหลวของพวกเขา พยายามชมเชยลูกด้วยน้ำเสียงที่จริงใจ พยายามสอนให้ลูกรู้ว่าพ่อแม่ก็สามารถทำผิดพลาดเป็นบางครั้งได้เหมือนกัน รวมถึงพยายามให้ลูกได้รับรู้ว่า ลูกคือสิ่งที่สำคัญสำหรับพ่อแม่เช่นเดียวกัน ในขณะเดียวกันระหว่างที่คุณสอนลูก คุณควรที่จะมีความภาคภูมิใจตนเองเช่นเดียวกัน เพราะเด็กก็จะเรียนรุ้ที่จะทำเช่นเดียวกัน เพราะเค้าจะดูพ่อแม่เป็นตัวอย่าง

บางครั้งเด็กอาจมีควาเชื่อที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับความสามารถของพวกเค้าเอง พยายามส่งเสริมให้ลูกๆของคุณตั้งความความหวังที่สมจริงและมาตรฐานสำหรับตัวเอง โดยช่วยให้ลูกระบุลักษณะหรือทักษะที่พูวกเข้าต้องการที่จะปรับปรุงและช่วยให้พวกเขาวางแผนในการที่จะบรรลุเป้าหมาย ส่งเสริมให้ลูกๆกลายเป็นส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ที่ส่งเสริมให้เกิดความรู้สึกการทำงานเป็นทีมและสำเร็จ

แม่สายป่านขอเล่าประสบการณ์คร่าวๆให้ฟังนะคะ สมัยแม่สายป่านเด็กๆ ช่วยที่เราปิดเทอมคุณแม่จะส่งไปแคมป์เพื่อให้ลูกๆที่รุ้สึกถึงการอยู่ร่วมกับผู้อื่น รวมถึงการทำกิจกรรมเป็นทีมร่วมกับผู้อื่น และขอบอกคะว่าได้ผลจริงๆ เพราะพอเราโตขึ้นมาได้หน่อยตอนอยุ่มัธยมต้น เราไม่กลัวแม้แต่จะเจอกับคนแปลกหน้า เราสามารถที่จะทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ๆโดยไม่เขินอายเลยจริงๆคะ เราไม่กลัวการที่จะกล้าแสดงออกเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะคุณแม่ของแม่สายป่านมักจะสอนให้เรารู้จักการกล้าแสดงออกอย่างถูกวิธี จนกระทั่งมาถึงรุ่นหลานสิ่งที่อาม่าน้องออมใจสอนก็เป็นแบบเดียวกัน เพราะอาม่าน้องออมใจสอนให้เด็กเรียนรู้ที่จะเจ็บ เรียนรู้ที่จะเอาตัวรอด ด้วยความที่บ้านเราเป็นร้านขายยา สีสันหลากตา ทำให้น้องออมใจชอบปีนเก้าอี้ ขึ้นมารื้อยาหรือเล่นยา ช่วงแรกๆน้องออมตกเก้าอี้บ่อยมาก อาม่าน้องออมใจมักบอกเสมอคะว่า “อย่าไปทำเสียงตกใจ หรือโวยวาย” จนปัจจุบัน แม้ว่าน้องออมจะตกเก้าอี้หรือเอาหัวไปกระแทกกับอะไรก็ตาม น้องออมไม่ร้องโวยวายแม้แต่ครั้งเดียว เมื่อตกเสร็จปุ๊บ น้องออมจะแค่ลูบๆตรงที่เจ็บแล้วลุกขึ้นมาเล่นใหม่ อาม่าน้องออมใจไม่เคยห้ามเลยคะ ว่า “อย่าปีน เดี๋ยวตก” แต่สิ่งที่ใดจากอาม่าน้องออมใจคือ “ปล่อยเค้า ถ้าตก แล้วเจ็บเค้าจะได้เรียนรู้ว่ามันอันตราย” อันนี้คือเรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริงคะ เพราะด้วยนิสัยของเด็กแล้วร้อยทั้งร้อยเชื่อเถอะคะ ว่าชอบลองของ เพราะเป็นวัยเรียนรู้ของเค้า กล้าคิด กล้าลอง กล้าทำ ดั้งนั้น ก็ตั้องกล้าเจ็บด้วย วันนี้แม่สายป่านฝากไว้เพียงเท่านี้คะ พรุ่งนี้เจอกันใหม่นะคะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น